[Review] Wagyu Lab J ทองหล่อ ร้านที่สายเนื้อห้ามพลาด

สวัสดีค่ะ ช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมา บิวได้มีโอกาสไปทานอาหารร้านนึงมา วัตถุดิบพรีเมียม อร่อย คุ้มค่ามาก เลยอยากจะมาแนะนำค่ะ :) โดยเฉพาะเพื่อน ๆ สายเนื้อ เตรียมท้องร้อง น้ำลายไหลได้เลยค่า


ร้าน Wagyu Lab J (วากิวแลปเจ) ตั้งอยู่ในโครงการพิมาน เข้ามาจากสุขุมวิท 49 ไม่ไกลนัก พิกัดร้าน: https://g.page/wagyu-lab-j?share  จะขับรถมา หรือนั่งรถไฟฟ้ามาก็สะดวกค่ะ บิวขับรถไป มีที่จอดรถบริการฟรี 1 ชั่วโมงครึ่ง ขับมาถึงหน้าโครงการก็เห็นร้านใหญ่ตระหง่านเลยค่ะ 




มีโต๊ะนั่งทั้งข้างนอก และข้างใน ถ้ามาช่วงเย็น-ค่ำ บิวจะเลือกนั่งข้างนอกค่ะ ดูชิลมาก ถ้าอากาศเย็น ๆ หน่อยด้วยแล้ว บรรยากาศคงดีมาก ๆ เป็นอีกร้านนั่งชิลทองหล่อที่เลือกมาสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ได้เลยค่ะ แต่วันนี้มาทานมื้อกลางวัน เลยขอเข้าไปนั่งข้างในก่อนค่ะ



ทางร้านมีมาตรการป้องกันโควิดอย่างดีตั้งแต่หน้าร้านเลย มีการวัดอุณหภูมิ มีแอลกอฮอล์บริการ และมีห้องน้ำอยู่ด้านในร้านเลย จะเดินไปล้างมือเมื่อไหร่ก็สะดวกมากค่ะ


มาชมบรรยากาศในร้านกันก่อนค่ะ เพดานสูง โล่ง โปร่ง สบาย ไม่อึดอัด ชอบร้านสไตล์นี้มากค่ะ บิวไปกับพี่สาว ตอนแรกบิวเลือกนั่งเป็นโต๊ะ แต่เอ๊ะ... เหลือบไปเห็นว่ามีโซนบาร์ให้บริการด้วย ด้านหน้ามีเชฟทำอาหารให้เห็นกันจะจะไปเลย เลยย้ายไปนั่งโซนนั้นดีกว่า จะได้สอบถามเรื่องอาหารได้สะดวกด้วย


หลังจากได้โต๊ะแล้วก็มาดูเมนูกันค่ะ อากาศร้อน ๆ รีบหยิบเมนูเครื่องดื่มมาดูก่อนเลย โอ้วววสีสันสดใส เตะตามาก Mocktail หลากหลาย ราคา 120++ แต่สะดุดที่สุดเห็นจะเป็น เมนูช่วงเดือนนกุมภาพันธ์เดือนแห่งความรักนี้ เป็นสองเมนู The Couple ราคา 160++ บิวเลือกเป็น Cup Kiss ส่วนพี่โบว์เลือกเป็น Snow Butterfly 


ในรูปว่าสวยน่าทานแล้ว ของจริงสวยกว่ามากกกกกค่ะ เชฟแนะนำให้กินด้านบนก่อน ของบิวเป็น Cup Kiss ด้านบนจะเป็นครีมโรยด้วยน้ำตาล ให้ความรู้สึกย้อนวัยเหมือนกินไอศกรีมสมัยเด็ก มีสตรอว์เบอร์รีเสียบไม้มาด้วย หลังจากนั้นดูดน้ำด้วยหลอด รสเปรี้ยวหวาน สดชื่นมาก แล้วสุดท้ายก็คนให้เข้ากันทั้งแก้ว แล้วกินดูอีกที รู้สึกเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ อร่อยมากค่ะ ส่วน Snow Butterfly จะเป็นลิ้นจี่ และหอมอัญชัน สดชื่นทีเดียวค่ะ




ตามมาด้วยขนมปังกรอบให้ทานเล่น ระหว่างรออาหาร  กรอบอร่อย จนต้องขอเติมอีกเลยค่ะ >.< เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 3 แบบ


มาถึงของคาวกันบ้าง ทางร้านมีทั้งเมนู A la carte และเป็นเซทเมนูให้เลือก 


และช่วงนี้มี Lunch set สำหรับคนชอบทานง่าย ๆ แต่มีหลากหลายเมนูให้เลือกเลยนะคะ จะกินที่ร้าน หรือสั่งกลับบ้านก็ได้ ช่วง 11.00-15.00 เท่านั้น ราคาก็อยู่ที่ 250++, 350++ ฟรีเครื่องดื่ม และสลัดด้วยน้า เห็นเมนูแล้วตกใจเลย ราคานี้ได้หรออออ คุ้มไปอีก (แอบแนะนำ Lobster Ramen นะคะ คุ้มสุด ๆ อิอิ)

ส่วนวันนี้ได้รับอั่งเปามาเยอะ เลยขอกินเป็นแบบเซทละกันค่ะ :D แบบเซทเค้ามีให้เลือกถึง 3 แบบเลย 2,500++/3,500++/5,500++ ดูจากเมนูที่เสิร์ฟแล้ว บิวขอลองแบบกลาง ๆ 3,500++ ค่ะ ซึ่งเซทนี้สามารถทานกี่คนก็ได้น้า ไม่ได้เป็น course ไม่ต้องจ่ายเป็นหัว ดีมาก ๆ เลย เพราะอย่างผู้หญิงไปกันอาจจะทานได้ 3 คน แต่จะเหมาะที่สุดสำหรับ 2 คนค่ะ


จานแรกมาแล้วค่าาาา Hotate Salad จุดเด่นอยู่ที่ผัก ที่ผสมผสานระหว่างผักสด กับผักต้มได้อย่างลงตัว ใส่หอยเชลล์ฮอกไกโดด้วย อร่อยมากกกกกค่ะ โดยเฉพาะน้ำสลัด หอมน้ำมันงา รสชาติกลมกล่อมมาก ๆ ราดไม่หยุดเลยย 555


เมนูที่สองเป็น Sushi Wagyu มีความละเอียดอ่อนตั้งแต่ข้าวที่ใช้เลยค่ะ เพราะปลูกด้วยน้ำแร่ มีความออแกนิคมาก ๆ เนื้อวากิวอร่อยมาก นุ่มลิ้น ซอสที่ราดมาก็อร่อยเข้ากันมาก เมนูนี้แนะนำมาก ๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะสายเนื้อ มันดีย์มากกกก (เลยเหมาคนเดียว 2 คำเลย แหะ ๆ)


ขั้นด้วย Soup of the day ซักนิด วันนี้เป็นซุปเอ็นวัว หอมปลาแห้ง และได้กลิ่นไอความเป็นอาหารญี่ปุ่น 


Seared Hokkaido Scallop หอยเชลล์มาอีกเมนูแล้วววว เป็นหอยเชลล์ในซอสพิเศษของทางร้าน และโรยด้านบนด้วยกระเทียม มีเลม่อนมาให้บีบเพิ่มรสชาติด้วย ตอนแรกบิวลองแบบไม่บีบเลม่อนก่อน ซอสมีความครีมมี่ หวานนวล หอยเชลล์ใหญ่มาก เชฟบอกว่าเป็นไซส์ L เลยทีเดียว (ราคาหน้าร้านกิโลละประมาณ 2,160.-) เนื้อนุ่ม กระเทียบไม่ขม แต่เพิ่มความมัน หืมมม จังหวะที่เขียนรีวิวอยู่นี่คือ อยากไปกินอีกเลยค่ะ 


ก่อนจะไปที่เมนูพระเอกของวันนี้ ขอคั่นด้วยการไปเดินชมร้านสักนิด ตอนเข้ามาแอบเห็นตู้แช่เต็มเลย เลยอยากไปส่องดูว่ามีอะไรน้า และได้ค้นพบว่าที่ร้านขายวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นให้กลับไปทำทานเองที่บ้านได้ด้วย ปลุกความเชฟในตัวคุณช่วงโควิดนี้ได้ดีทีเดียวเลย




นอกจากอาหารแช่แข็งประเภทปลาต่าง ๆ ก็ยังมีซอสปรุงรส เครื่องดื่ม และเนื้อ Dry aged ขายด้วย!!! ซึ่งเนื้อจะเลือกจากตู้ แล้วให้เชฟ cook ให้เลยก็ได้นะคะ 


ก่อนเข้าเมนูต่อไปของเรา มี Sorbet มาขั้นให้ล้างปากกันสักนิด


และก็มาถึงเมนูพระเอกของเราในวันนี้!~~~~ แต่น แต๊น แต้นนนน Steak Tasting Set นั่นเองงงง



ข้อดีของการนั่งที่บาร์ ก็คือ ได้เห็นการปรุงอาหารของเชฟ ตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนเสิร์ฟให้เราเลย สามารถสอบถามพูดคุยกับเชฟได้ตลอดเวลา ได้แลกเปลี่ยนความรู้ และได้ความรู้ใหม่ ๆ กลับมาเยอะมากค่ะ เชฟน่ารัก คุยสนุก ทำให้เพิ่มอรรถรสในการทานอาหารเข้าไปอีก


เนื้อในเซท Signature นี้เป็น F1 Tajima Wagyu กับ A5 Kagoshima Wagyu ชิ้นละ 75g ค่ะ 


ต้องบอกก่อนว่าบิวชอบเนื้อมากกกก ตอนอยู่เกาหลี ต้องเนื้อฮันนู แต่ถ้าญี่ปุ่นก็ต้องวากิวนี่แหละ ซึ่งวากิวจะมีหลายระดับ หลายเกรดเลยค่ะ A5 นี่คือที่สุดแล้ว เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียง หรือจะเรียกว่าน้ำจิ้มเนื้อก็ได้ มีด้วยกันถึง 8 อย่างเลย จากที่ชินกับการจิ้มเกลือ ไม่ก็วาซาบิ แต่วันนี้ได้ลองหลากหลาย และค้นพบว่า เข้าได้กับทุกอย่างที่เชฟเตรียมมาเลย บิวว่าทางร้านมีการคิดค้นมาอย่างดีเลยนะ กว่าจะได้แต่ละเมนูที่ลงตัวขนาดนี้ ส่วนตัวบิวชอบซอสผักหอม กับวาซาบิ เพราะช่วยตัดความมันของเนื้อ แต่ไม่ทำให้รสชาติเนื้อเสียไปเลย 



บิวสั่งเป็น Medium rare มีความชุ่มฉ่ำมากกกก ละลายในปากเลยค่ะ ถึงบอกว่าสายเนื้อห้ามพลาด! 100 คะแนนเต็มไม่หักเลยค่าาาา เด็ดจริง ๆ ส่วนตัวบิวชอบทั้งสองเลย แต่ขอให้คะแนน A5 มากกว่านิดนึง เพราะนุ่มกว่า texture ดี แทบไม่ต้องเคี้ยวเลยค่ะ 


อีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ของวันนี้นะคะ Lobster Ramen หรือราเมนล็อบสเตอร์นั่นเอง เสิร์มาพร้อมซอสพริกในน้ำมัน สามารถเติมได้ถ้าชอบเผ็ดหน่อย แต่ไม่เติมก็อร่อยแล้วค่ะ น้ำซุปชั้นบน กับชั้นล่างมีความต่างกันอย่างน่าประหลาดด้วย เป็นประสบการณ์การกินแบบใหม่เลยทีเดียว รสกลมกล่อม เส้นนุ่ม เชฟเล่าว่าต้องสั่งผลิตเส้นเฉพาะเลย เป็นขนาดของเส้นราเมนเฉพาะของทางร้าน ไม่เท่ากับขนาดของเส้นราเมนที่ขายโดยทั่วไป ทำให้รู้วันนี้เลยว่าเส้นของราเมนมีหลากหลายขนาดไปอีก เมนูนี้พี่โบว์ชอบมากกกก บอกว่าเอาน้ำซุปไปราดข้าวกินเปล่า ๆ ยังได้เลย 555 ส่วนน้ำมันล็อบสเตอร์นั้นก็เข้ากันดีกับซุปราเมน อร่อยสุด ๆ เลย ใครที่อยากลองเมนูนี้ ลองสั่งในเมนูอาหารกลางวันของร้านก็ได้ค่ะ ราคาดีงาม



มาถึงเมนูสุดท้าย... ทานคาวแล้วจะไม่มีของหวานได้ยังไง เมนูของหวาน ทางร้านก็คิดค้นเองอีกแล้ววว เป็นเค้กแครนเบอร์รี่ราดซอสคาราเมล นุ่ม หอมหวานมากค่ะ แต่ละวันเมนูอาจจะไม่เหมือนกันนะคะ 



สุดท้ายอยากบอกว่าประทับใจทุกอย่างของร้านนี้เลย ทั้งพนักงานที่เอาใจใส่ดี คอยแนะนำหลาย ๆ อย่าง ร้านสะอาด นั่งสบาย โปร่ง มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ราคาคุ้มค่ากับคุณภาพ และรสชาติของอาหาร ทางเชฟพิถีพิถันมาก นอกจากนี้ยังเดินทางสะดวก ถ้าคิดถึงร้านเนื้อทองหล่อ ร้านอาหารญี่ปุ่นทองหล่อ ก็ลองมาที่นี่เลยค่ะ แล้วจะติดใจเหมือนบิว >.< 

ถ้าอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม และเมนูของทางร้าน สามารถเข้าไปติดตามได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/WagyuLabJ
จองโต๊ะ: 02-123-8703 หรือ Add Line @wagyulabj

โทร หรือไลน์จองก่อนก็ดีน้า เพราะเดือนกุมภาพันธ์นี้มีโปรโมชัน ถ้าจองโต๊ะผ่านทางใดก็ได้ จะได้เครื่องดื่ม Kiss from a rose ฟรีด้วย หรือถ้าไม่สะดวกมากินที่ร้าน ยิ่งเพื่อน ๆ ที่ทำงานแถวสุขุมวิท สามารถโทรสั่งได้ ทางร้านมีบริการ Delivery ด้วย lalamove โทรหรือไลน์ไปสอบถามค่าส่งได้เลยค่ะ

ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11:00-22:00 น. หยุดวันจันทร์ (เปิดอังคาร-อาทิตย์จ้า)
จ่ายเงินได้ทั้งเงินสด โอนเงิน และบัตรเครดิต




วันนี้ขอไปนอนฝันถึงเนื้อก่อนค่ะ งือออ เห็นแล้วอยากกินอีกแล้วววว เจอกันใหม่รีวิวหน้าค่า อันนยอง~!




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

[Review] QQ words flashcards แฟลชการ์ดคำศัพท์ 3 หมวดหมู่ ทั้งสนุก และได้ความรู้

[Review] ยาสีฟันเทพไทย ลดคราบชากาแฟ ใช้เพียงนิดเดียว ปากสะอาด หอมสดชื่นนน

[Review] สเปรย์ทำความสะอาดผิวสูตรอ่อนโยนสำหรับเด็ก Howdy ปลอดภัยต่อเด็ก โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย